วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2556

คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามจร้า


คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม


ประวัติความเป็นมา

คณะวิศวกรรมศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้รับการจัดตั้งเป็นหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตามมิติที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 3/2542 เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2542 ต่อมาเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์  2548 ได้รับการเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัยมหาสารคาม ปรับปรุงระเบียบมหาวิทยาลัยมหาสารคามว่าด้วยคณะวิศวกรรมศาสตร์ พ.ศ. 2548 โดยได้รับการจัดตั้งเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์มีหน้าที่จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา โดยไม่เป็นส่วนราชการมีหน้าที่จัดการศึกษาทำนองเดียวกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ ดำเนินงานในรูปแบบการบริหารที่เน้นความคล่องตัว มีประสิทธิภาพและพึ่งตนเองให้มากที่สุด

สีประจำคณะ    สีแดงเลือดหมู

logo_engEdit
สัญลักษณ์คณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ขอบคุณรูปภาพจาก http://mis.engineer.msu.ac.th/engineer/index.php?option=com_content&view=article&id=15&Itemid=87


ระดับปริญญาตรี
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เปิดสอนในระดับปริญญาตรี 7 สาขา ได้แก่

1. สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา
ชื่อหลักสูตร : หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา
ชื่อปริญญา : วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมโยธา) หรือ วศ.บ. (วิศวกรรมโยธา)
วิศวกรรมโยธา เป็นวิศวกรรมควบคุมสาขาหนึ่ง มีองค์กรทางวิชาชีพและกฎหมายควบคุมมาตรฐานเพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของสาธารณชน โดยสาขาวิศวกรรมโยธาเป็นสาขาวิทยาศาสตร์ประยุกต์ที่เกี่ยวข้องกับหนึ่งในปัจจัยสี่พื้นฐานของมนุษย์ คือ บ้านเรือนที่อยู่อาศัย และรวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ สาธารณูปโภค สาธารณูปการ การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม การป้องกันบรรเทาภัยธรรมชาติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเป็นอยู่ทั่วไปของประชาชน จึงมีความเชื่อว่าสาขาวิศวกรรมโยธา ยังคงเป็นวิชาชีพสาขาหนึ่งที่ยังเป็นที่ต้องการของประเทศ นับวันที่พลเมืองจะเพิ่มขึ้น สังคมยังมีการขยายตัว ยังมีการพัฒนาเศรษฐกิจ มีการแข่งขันทางเศรษฐกิจกับประเทศต่างๆ โยเฉพาะในภูมิภาคนี้ ความต้องการบุคลากรทางวิศวกรรมโยธาก็จะยังคงมีอย่างต่อเนื่องควบคู่กันไป
2. สาขาวิชาวิศวกรรมการผลิต
ชื่อหลักสูตร : หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมการผลิต
ชื่อปริญญา : วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมการผลิต) หรือ วศ.บ. (วิศวกรรมการผลิต)
วิศวกรรมการผลิต ได้มีการปรับปรุงครั้งที่ 2 นับตั้งแต่มีการสอนตามหลักสูตรตั้งแต่ภาคต้น ปีการศึกษา 2542 ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงรายวิชาและเนื้อหาต่างๆ ให้เป็นไปตามคำแนะนำของหน่วยงานที่รับบัณฑิตเข้าทำงานและมีความสอดคล้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านวิศวกรรมการผลิตในงานอุตสาหกรรม ตลอดจนให้เป็นไปตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษาและนโยบายทางวิชาการของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยหลักสูตรเน้นในด้านกระบวนการผลิต เครื่องมือกล วัสดุศาสตร์ รวมถึงการบริหารและการจัดการทางวิศวกรรม เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ สังคมและการพัฒนาประเทศ
3. สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล
ชื่อหลักสูตร : หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล
ชื่อปริญญา : วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมเครื่องกล) หรือ วศ.บ. (วิศวกรรมเครื่องกล)
วิศวกรรมเครื่องกล การปรังปรุงหลักสูตรครั้งนี้มุ่งให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษาของชาติ พัฒนาเป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยปรับปรุงรายวิชาและเนื้อหาต่างๆ ให้เป็นไปตามคำแนะนำของหน่วยงานที่รับบัณฑิตเข้าทำงาน เพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี และการปรับเปลี่ยนข้อบังคับขององค์กรวิชาชีพ มุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตให้มีความรอบรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม มีความสามารถคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์อย่างเป็นระบบ อีกทั้งให้เป็นไปตามเกณฑ์ของสำหนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และนโยบายทางวิชาการของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
4. สาขาวิชาวิศวกรรมชีวภาพ
ชื่อหลักสูตร : หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมชีวภาพ
ชื่อปริญญา : วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมชีวภาพ) หรือ วศ.บ. (วิศวกรรมชีวภาพ)
วิศวกรรมชีวภาพ ปัจจุบันประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาจากภาคการเกษตรไปเป็นเกษตรแบบผสมผสานกับเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม เพื่อให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้และสามารถเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้มากขึ้น รวมทั้งพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรและยังเป็นการสร้างรากฐานการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไทยให้เข้มแข็ง ดังนั้น คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จึงได้จัดทำหลักสูตรวิศวกรรมชีวภาพขึ้น โดยเน้นทางด้านวิศวกรรมอาหาร เพื่อผลิตวิศวกรที่มีความรู้พื้นฐานทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ชีวภาพ และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ วิเคราะห์ แก้ไขปัญหา ออกแบบระบบและกระบวนการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตรอบตัวเรา
5. สาขาวิชาวิศวกรรมเมคาทรอนิกส์
ชื่อหลักสูตร : หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมเมคาหรอนิกส์
ชื่อปริญญา : วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมเมคาทรอนิกส์) หรือ วศ.บ. (วิศวกรรมเมคาทรอนิกส์)
วิศวกรรมเมคาทรอนิกส์ ในปัจจุบันอุตสาหกรรมการผลิตมีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง และมีแนวโน้มที่จะนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในการควบคุมเครื่องจักรกลไฟฟ้าต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางด้านหุ่นยนต์เพื่อลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลการผลิต รวมทั้งลดและกำจัดมลภาวะเพื่อรักษาสภาพแวดล้อม บุคลากรที่จะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในอุตสาหกรรมการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเหล่านี้ จำเป็นจะต้องมีความรู้ ความเชี่ยวชาญหลายด้านประกอบกัน จะต้องมีความรู้ความชำนาญทางด้านจักรกล ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีการควบคุมอัตโนมัติและระบบคอมพิวเตอร์ ดังนั้นคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหานี้ที่จะต้องเร่งผลิตบุคลากรทางด้านนี้ออกมาให้มีความรู้ความสามารถเท่าทันเทคโนโลยีให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาด จะต้องส่งเสริมผลักดันให้เกิดการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน และการวิจัยวิศวกรรมเครื่องกล     สาขาเมคาทรอนิกส์ เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพไปพัฒนางานอุตสาหกรรมและประเทศชาติต่อไป
6. สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
ชื่อหลักสูตร : หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
ชื่อปริญญา : วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต (วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม) หรือ วศ.บ. (วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม)
วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเขตชุมชนเมืองและเขตอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่เป็นผลที่เกิดจากการพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็ว และขาดการวางแผนที่ดี ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยโดยตรง การศึกษาด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมจึงเป็นวิชาชีพที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการ วางแผน แก้ไข และจัดการปัญหาเหล่านี้ ดังนั้น จึงมีความต้องการวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ ด้านสิ่งแวดล้อม ที่เป็นผลจากการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ สังคม และพัฒนาประเทศ
7. สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า
ชื่อหลักสูตร : หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า
ชื่อปริญญา : วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมไฟฟ้า) หรือ วศ.บ. (วิศวกรรมไฟฟ้า)
วิศวกรรมไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้าเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งในการพัฒนาประเทศ ดังนั้น การนำพลังงานไฟฟ้ามาใช้ให้ได้ประโยชน์สูงสุดจำเป็นต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและงานวิศวกรรมไฟฟ้าสาขาต่างๆ เพื่อศึกษาออกแบบ ประดิษฐ์ วิเคราะห์ วิจัย และวางแผนงาน งานด้านวิศวกรรมไฟฟ้า รวมทั้งการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ต่างๆ มาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับทรัพยากร สภาพแวดล้อม สังคมและวัฒนธรรมไทย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จึงได้ดำเนินการเปิดสอนระดับปริญญาตรีด้านวิศวกรรมไฟฟ้าในแขนงต่างๆ ได้แก่ ไฟฟ้ากำลังไฟฟ้า ไฟฟ้าควบคุมและการวัด ไฟฟ้าสื่อสาร ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ เพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอุสาหกรรมและความต้องการวิศวกรไฟฟ้า โดยหลักสูตรดังกล่าวเป็นไปตามข้อกำหนดหลักสูตรระดับปริญญาตรีของกระทรวงศึกษา และมีเนื้อหารายวิชาครอบคลุมตามข้อกำหนดของคณะกรรมการควบคุมการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม (กว.) พ.ศ. 2505 รวมทั้งระเบียบสภาวิศวกรว่าด้วยรายวิชาและเนื้อหารายวิชา คณะวิศวกรรมศาสตร์จึงจัดทำหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า เพื่อให้หลักสูตรมีความทันสมัยและมีเนื้อหารายวิชาเป็นไปตามระเบียบของสภาวิศวกร 

ขอบคุณข้อมูลจาก http://mis.engineer.msu.ac.th/engineer/index.php?

วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

วิศวกรคือใครกันแน่?

รูปฟันเฟื่องหรือเฟื่องเกียร์ เป็นสัญลักษณ์ของวิศวกร
ขอบคุณรูปภาพจาก  realizemind.exteen.com  


วิศวกรคือ
ใครกันแน่?


        ดิฉันคิดว่าอาจจะมีผู้อ่านหลายท่านคงรู้จักหรือไม่รู้จักอาชีพวิศวกรเลยก็ได้ ต่อไปนี้ดิฉันจะพาไปรู้จักอาชีพวิศวกรกันนะคะ  วิศวกรคือผู้ที่ประกอบอาชีพทางด้านวิศวกรรม มีหน้าที่ ศึกษาวิเคราะห์ คำนวณ ออกแบบ ตรวจสอบแก้ไขปัญหาและควบคุมการผลิต อาทิเช่น การก่อสร้างสิ่งก่อสร้าง การออกแบบและผลิตรถยนต์ การควบคุมเครื่องจักรกลโรงงานต่างๆ โดยวิศวกรยังแบ่งออกได้เป็นหลายสาขา เช่น วิศวกรเครื่องกล วิศวกรโยธา วิศวกรไฟฟ้า วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม วิศวกรรมเคมี วิศวกรรมอุตสาหการ วิศวกรรมโทรคมนาคม วิศวกรรมเกษตร วิศวกรรมอากาศยาน วิศวกรรมโลหะการ วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมเซรามิค วิศวกรรมเหมืองแร่ วิศวกรรมยานยนต์ วิศวกรรมธรณี ฯลฯ โดยในประเทศไทยของเราวิศวกรยังเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย


        ในกฎหมายของประเทศไทยก็ได้ออกพระราชบัญญัติวิชาชีพวิศวกรรม พ.ศ. 2505 กำหนดให้วิศวกรในบางสาขาจำเป็นต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรม หรือที่รู้จักกันว่า "ใบกว." เพื่อการประกอบอาชีพด้วย ได้แก่ สาขา โยธา เครื่องกล ไฟฟ้ากำลัง ไฟฟ้าสื่อสาร อุตสาหการ เหมืองแร่ สิ่งแวดล้อม และเคมี ใบประกอบวิชาวิศวกรรมแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ 1. ภาคีวิศวกร 2. สามัญวิศวกร 3. วุฒิวิศวกร โดยมีสภาวิศวกรเป็นผู้พิจารณาออกใบอนุญาต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ แขนง ลักษณะและขนาดของสาขางานอีกด้วย  และในปัจจุบันการศึกษาทางด้านวิศวกรรมในประเทศไทยได้มีการขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากมีสถาบันการศึกษาหลายสถาบันได้ทำการเปิดสอนในหลักสูตร "วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต" ทำให้เป็นการสร้างโอกาสทางการศึกษาทางด้านวิศวกรรมมีเพิ่มมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามสถาบันการศึกษาก็ยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพของการศึกษาด้วยความเอาใจใส่และพัฒนาคุณภาพการสอนที่หลากหลายสาขา เพื่อคุณภาพของ "บัณฑิตวิศวกรรม"


ขอบคุณข้อมูลจาก 
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A8%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A3

วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

วิศวกรรมคืออะไรในความคิดของดิฉัน




   
วิศวกรรมคืออะไรในความคิดของดิฉัน

        ดิฉันคิดว่า คำว่า วิศวกรรม แปลมาจากคำว่า ”Engineering” ในภาษาอังกฤษซึ่งอ่านว่า เอ็น-จิ-เนีย-ริ่ง เป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องโดยชัดเจนกับวิทยาศาสตร์ของการวางแผนการออกแบบการสร้าง และการใช้งานอย่างถูกหลักเศรษฐศาสตร์ของสิ่งก่อสร้างหรือเครื่องจักร คำว่า Engineering นี้แปลมาจากภาษาลาตินว่า “Engenium” ซึ่งแปลว่าความสามารถตามธรรมชาติ หรือความเป็นอัจฉริยะที่ติดตัวมาโดยกำเนิด หรือการคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ คำว่า Ingenium นี้แผลงมาจากศัพท์เดิมว่า  “Eignere” หรือ “Genere” ซึ่งแปลว่า ผลิต ประดิษฐ์ สร้าง หรือทำให้เกิดขึ้นนะคะ 


ขอบคุณรูปภาพจาก  http://wangtakor.go.th/manual/

        ส่วนใน Engineering Council for Professional Development แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ให้ความหมายของ engineering ไว้ดังนี้คือการสร้างสรรค์โดยการนำเอาหลักวิทยาศาสตร์มาใช้ออกแบบ และพัฒนาสิ่งก่อสร้าง เครื่องจักร อุปกรณ์ หรือกระบวนการผลิต หรือกิจกรรมใดๆ ซึ่งใช้สิ่งต่างๆ เหล่านี้อย่างเดียวกันหรือหลายอย่างรวมกัน หรือการก่อสร้างและการใช้งานสิ่งเหล่านี้ให้ประโยชน์ให้เต็มที่ หรือการพยากรณ์การทำงานของสิ่งเหล่านี้ภายใต้สภาวะของการใช้งาน ซึ่งที่ได้กล่าวมาแล้วทำงานตามหน้าที่ที่ออกแบบมาให้ทำ ให้เป็นการคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์และปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินอนึ่ง มีผู้ใจเข้าคลาดเคลื่อนกันมากว่า วิศวกร (Engineer) คือ คนที่ทำงานคุมเครื่องจักร (engine = เครื่องจักร) กล่าวโดยสรุป วิศวกรรม คือ งานสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยอาศัยพื้นความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเศรษฐศาสตร์มาช่วยในการสร้างสรรค์อีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.explore-thailand.net/radio/popradio306.html